พายุมิลตันทวีความรุนแรงจากพายุระดับ 1 กลายเป็นพายุระดับ 5 ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง โดยพัดเอาน้ำในอ่าวเม็กซิโกที่อุ่นเป็นประวัติการณ์และเกือบเป็นประวัติการณ์เข้ามากระทบ และพัดขึ้นฝั่งในรัฐฟลอริดาในฐานะพายุเฮอริเคนระดับ 3
การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้มีอุณหภูมิในอ่าวสูงขึ้นถึง 400 ถึง 800 เท่า
ความร้อนที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้มิลตันกลายเป็นพายุเฮอริเคนที่พัดแรงที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอันดับสามเท่าที่มีการบันทึกไว้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าว โดยมีความเร็วลมสูงสุดต่อเนื่องถึง 180 ไมล์ต่อชั่วโมง (290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่าพายุฝนที่คล้ายกับที่มิลตันนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นบ่อยขึ้นประมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ที่ไม่เกิดจากภาวะโลกร้อนที่มนุษย์เป็นผู้ก่อขึ้น
“การศึกษานี้ยืนยันสิ่งที่ควรจะชัดเจนอยู่แล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้เกิดพายุรุนแรงขึ้น และการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นสาเหตุ” เอียน ดัฟฟ์ นักรณรงค์จากองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสิ่งแวดล้อม กรีนพีซ กล่าว “ผู้คนหลายล้านคนทั่วฟลอริดา ซึ่งหลายคนไม่มีประกันภัย ต้องเผชิญกับต้นทุนมหาศาลในการสร้างบ้านเรือนและชุมชนที่พังยับเยินขึ้นมาใหม่”
Credit ufabet
Comments on “การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”